พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์

พระโอวาทพระพุทธบรรพจารย์เทียนหยาน

ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม2วัน(กลุ่มนครสวรรค์)ณไท่อวี้(เฉพาะกิจ) จ.นครสวรรค์

วันเสาร์ที่ 20  สิงหาคม  พ.ศ.2554

สาธุชนกราบขอประทานพระโอวาทชี้แนะ

ใจตรงแน่วแน่มั่นคงไม่ยึดหมาย            คือภาวะจิตภายในแห่งพุทธะ

คนหลงยึดหมายในรูปลักษณ์สี่นา             เพียรฝึกสัมมาสมาธิวิสุทธิ์ธรรม

ตัดขาดสิ้นความคิดอกุศล                        ตัดขาดสิ้นตัวตนอัตตาหนา

ตัดขาดสิ้นใจขุ่นมัวฟุ้งซ่านนา                  เจริญภาวนาแจ้งกาลนี้เทอญ

เราคือ

พระพุทธบรรพจารย์เทียนหยาน รับบัญชาจาก

พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่โลกา  น้อมกายเคียมคัล

องค์มารดรแล้ว ถามศิษย์รักทุกคนสุขสบายดีไหม

น้อมจิตสงบตั้งใจฟัง

ฮา  ฮา

 

ใช้พลังเที่ยงธรรม…กำราบมารกิเลสร้าย

ใช้พลังเที่ยงธรรม…ปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นมิหวาดกลัว

ใช้พลังเที่ยงธรรม…ส่งเสริมเวไนยใต้หล้าอย่างรักเมตตามิจบสิ้น

ใช้พลังเที่ยงธรรม…ตีฝ่าทุกอุปสรรค  ทุกปัญหา  ทุกอวิชชาที่ขวางกั้น

 

ใช้จิตสำนึกคุณ…เป็นแกนฐาน  นำพาเวไนยสู่ฟ้าเบื้องบน

ใช้จิตสำนึกคุณ…ทุกเวลาที่ปัญหานั้นตีบตัน

ใช้จิตสำนึกคุณ…อุทิศมุ่งมั่น  ฉุดช่วยคนหลงในกาลนี้

บอกกับตนเอง…นั้นคือผู้มีความผาสุกชีวิตและบุญวาสนา

พร้อมขับเคลื่อนส่งมอบธรรมะ  ความดีงามให้กับเวไนย

 

บอกกับตนเอง…ตนเป็นผู้ที่มีภาระหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์

พร้อมประกาศหลักสัจธรรมแทนเบื้องบน

 

บอกกับตนเอง…ตนเป็นผู้มีจิตภาวะพระพุทธะ  พระโพธิสัตว์

พร้อมสำแดงออกถึงจิตมหาเมตตาอันประมาณมิได้

 

สิ่งที่อาจารย์กล่าวมานี้  คือให้ศิษย์ปลุกพลัง ปลุกชีพอริยปราชญ์บนแดนหล้าให้ปรากฏโดยแท้  หวังว่าวันนี้ผู้มีบุญสัมพันธ์ จะได้รับธรรมล้ำค่า  รากบุญลึกพึงถนอมรักษาให้ยืนยาว ตัดขาดสิ้นจิตอกุศล  จิตใจกิเลสและอวิชชาต่างต่าง  ใช้จิตศรัทธาจริงใจสดับธรรม  ใช้ความเคารพเจตนาอันบริสุทธิ์

 

บำเพ็ญธรรมและปรกโปรดฉุดช่วยเวไนย หลุดพ้นจากการเกิดตาย  เห็นหลายคนมานั่งจับผิด  เห็นหลายคนมิคิดจริงใจในหลักธรรม เห็นหลายคนขบขันในการปรกโปรดงานยุคสาม แต่ธรรมะคือภาวะเดิมอันบริสุทธิ์ คือความเสมอภาค มีจิตญาณเดิมเหมือนกัน  ที่ต่างกันคือกายสังขาร  คือรูปนามที่เรียกขานเท่านั้นเอง

 

หากทว่าผู้ใดสัมผัสถึงคุณวิเศษโดยแท้จริง  จะมิลังเลสับสนและเร่งศึกษาธรรม  บำเพ็ญจริงอย่างศรัทธามุ่งมั่น หวังศิษย์ก็เช่นกัน อาศัยวันนี้สดับธรรมให้ตื่นแจ้ง  แล้วลงแรงฉุดช่วยคนหลง ฉุดช่วยจิตญาณ  นำธรรมะสู่ครอบครัว  ฉุดช่วยพ่อแม่และบรรพชนของตนเอง  อาศัยโอกาสนี้  กาลยุคขาว  นำพาตนและพี่น้องหลุดพ้นจากการเวียนว่าย บำเพ็ญบวชจิต ปฎิบัติธรรมส่งเสริมคน หมั่นมาศึกษา ใช้เวลาแห่งชีวิตให้ก่อเกิดคุณประโยชน์ ลดละเลิกจากการซื้อหวย ลดละเลิกจากการพนันและอบายมุข สิ่งล่อลวงต่างต่าง  อย่าลุ่มหลงจนลืมจิตญาณ  อย่ามัวเมาจนลืมชีวิตอันยั่งยืน

 

อาจารย์กล่าวมานี้  หวังว่าเจ้าจะแจ้งความหมายที่อาจารย์กล่าว  ผู้บำเพ็ญธรรม  จะตัดละซึ่งอบายมุข ถึงแม้ว่าจะตัดได้ไม่เด็ดขาด แต่ขอให้ค่อยค่อยตัดวาง  เพื่อจิตญาณของเจ้าเอง ตลอดกาลบำเพ็ญ ใช้ทุกช่วงของชีวิตโดยมิขาดคุณธรรม ศีลธรรม  จดจำไว้

 

ศิษย์รักเอ๋ย…

เมื่อมีบุญสัมพันธ์จึงพบหน้า  ขาดบุญสัมพันธ์ใกล้แค่เอื้อมยังมิคุ้นเคย  ดังนั้น ศิษย์กับอาจารย์ต้องรู้เข้าใจในหน้าที่การปรกโปรดทั้งสามโลก อย่าดูเบาหรือล้อเล่น  เห็นผู้คนในใต้หล้า  ยังคงสนุกสนานสำราญใจ  เพลินเดินเที่ยว  อยู่อย่างประมาทชีวิต  ปรามาสหลักธรรม  ดังนั้น  ศิษย์ต้องรู้ตระหนักคิดอย่างถี่ถ้วน  อย่าหลงเพลินจนลืมในทางกลับบ้าน

เข้าใจไหม

 

วันนี้อาจารย์รู้ว่า ทุกคนมีจิตศรัทธามุ่งมั่นต่องานธรรมะ อย่างมิกลัวความยากลำบากใดใด  ขอให้ศิษย์เข้าใจอย่างแจ้งว่า  หากชีวิตผู้บำเพ็ญหนึ่งคนนั้น  จะบรรลุหรือจะอยู่ช่วยงานฟ้าต่อไปนั้น  อยู่ที่เบื้องบนเป็นผู้จัดสรร  สรุปบทสุดท้าย  วันนี้จงรู้จักมุ่งมั่นทำสุดจิตสุดใจ  มิกลัวว่าจะไม่มีใครดูแล  ฟ้าเบื้องบนย่อมจัดสรรให้สมบูรณ์เสมอ  แต่จงมีทัศนะที่ถูกต้อง  มีพลังอันเที่ยงธรรมนำพาเวไนยก้าวไปข้างหน้า  สร้างสรรค์ชีวิตงานธรรมให้รุ่งเรืองเท่านั้นพอ  และบุกเบิกเสาะหาสถานที่สร้างเรือธรรมรอต่อ  อีกไม่นานจะมีผู้มีบุญสัมพันธ์บรรจบมาพบเอง  แต่ให้เจ้าในเวลานี้ทำงานธรรม  นำพาผู้คนตั้งปณิธานด้วยจริงใจ  ความจริงใจจะพาทุกสิ่งอย่างราบรื่น

เข้าใจไหม

ก่อนจากกัน  บุคลากรทุกคนที่อยู่แนวหน้าเป็นตัวแทนแต่ละสถานธรรมออกมาข้างหน้า  บำเพ็ญมาหลายสิบปี  ในแต่ละปี เจ้าเข้าใจในภาระหน้าที่ที่แบกคานมากเพียงใด  ตอบอาจารย์ได้ไหม  โปรดกล่าวออกมา  มากล่าวต่อหน้าอาจารย์

 

( ตัวแทนกล่าวตอบคำถาม )

ช่วยงานอาจารย์  ฉุดช่วยเวไนยคือภาระฟ้า  แต่การนำพาส่งเสริมเวไนยยังขาดตกบกพร่อง   อาจารย์มิตำหนิเจ้า  แต่อาจารย์โทษอาจารย์เองที่อยู่เคียงข้างโดยไร้คุณธรรม  บารมีคุณ

 

( ตัวแทนกล่าวตอบคำถาม )

เจ้ายังต้องเรียนรู้มากมากหนา  เจ้ายังต้องฝึกฝนกล่อมเกลาจิตใจนี้สูงอีกขั้น  เจ้ายังต้องรู้จักสนองนำพาผู้น้อยให้เป็น  แต่อาจารย์เห็นเจ้าบำเพ็ญปฏิบัติยังขาดประสบการณ์  จงตั้งใจจริง  เป็นสิ่งที่ดี  นำพาเวไนยอย่าให้ขาดช่วง  โอบอุ้มป้องภัยให้ความอบอุ่น  ดุจพ่อแม่ที่มอบความรักให้กับลูก  อย่าท้อใจถอยกำลังแรงเดิน  นี่คือการเริ่มต้นเท่านั้นเอง

เข้าใจไหม

 

( ตัวแทนกล่าวตอบคำถาม )

เป็นตัวแทนสถานธรรม  หากมิเข้าใจในบทบาทของตนเอง จะดูแล้วติดติดขัดขัด  จะดูแล้วยังไม่ชัดเจน  ภาระสำคัญเจ้าต้องแบกรับ  แต่การแบกรับยังไม่เต็มที่  แต่ขอให้ทานทั้งสามเป็นกำลัง  ดีไหม

 

( ตัวแทนกล่าวตอบคำถาม )

จงทำตามกำลังศรัทธา  ศิษย์รู้ไหม  อาจารย์ห่วงใยเจ้าหนา  เจ้าศรัทธาจริงมอบให้ฟ้า  แต่ปัญหามารุมเร้า  อีกเวรกรรมมาเพื่อตามทวงถาม  เจ้าต้องระมัดระวัง  อย่าประมาทชีวิต  ทุกขณะจิตทบทวนไตรรัตน์  ทุกขณะจิตสร้างบุญกุศลให้ยิ่งห่างไกลจากเจ้ากรรมนายเวร ด้วยภาระที่เจ้าแบกฉุดช่วยเวไนย  อาจารย์นี้เอาใจช่วยทำงานฟ้าอย่างราบรื่น   รู้รับผิดชอบ   ดีไหม

 

( ตัวแทนกล่าวตอบคำถาม )

เดินบนหนทางธรรม หากจิตใจมีความเชื่อมั่นในศรัทธา  ทำงานฟ้าจะไม่กังขา หากจิตใจดูลังเล  ทำงานหน้าที่จะไม่สมบูรณ์ ยิ่งบุกเบิกถึงมีใจ  แต่ไร้คนหนุน ฟ้าช่วยหนุน  แต่เจ้าไม่รู้เพราะเจ้าดูเบาตน  เพราะเจ้ายังมิเข้าใจถึงความสำคัญการปรกโปรดทั้งสามโลก  ว่ายิ่งใหญ่มหาศาลเพียงใด หากคิดเห็นแก่ตัว  ย่อมมิอาจทุ่มเทอุทิศได้สุดใจ หากคิดเพื่อเวไนย  เจ้าจะไม่ยึดหมายบุญกุศลกับสิ่งที่บำเพ็ญปฏิบัติมานั้น  จะผ่านวันเดือนปี หรือสิบปี  แต่งานธรรมต้องดำเนินต่อไป วันนี้ที่เจ้าออกมา  อาจารย์เพียงให้เจ้าได้เข้าใจในภาระหน้าที่ ใจดีแต่บกพร่องด้วยการกระทำ  ถือว่ายังไม่กลมกลืนสำเร็จผล  จงอ่อนน้อมถ่อมตน รักษาจิตตนให้บริสุทธิ์

เข้าใจไหม

 

ยังมีใครไหมที่ยังไม่ได้ออกมา ออกมาพร้อมกันพร้อมกับคนที่กล่าวก่อนหน้านั้น หันมาตรงหน้าอาจารย์   โปรดฟังให้ดี หน้าที่ของศิษย์นั้น  สิ่งสำคัญยิ่งนัก การส่งเสริมคนนำพาเข้าชั้นเรียน   เจ้าต้องตั้งใจและประคองให้ดี หากหน้าที่มิได้ปฏิบัติ   คือหยุดเจริญธรรม  เจริญปณิธาน

เข้าใจไหม

 

อยู่เบื้องหน้าคนทั้งหลาย  สิ่งที่สำคัญ  คือความประพฤติที่น่านับถือ น่าศรัทธาจริงใจ รักเคารพ แต่หากขาด ยากแท้จะให้ผู้ใดมาศรัทธาจริงใจมาเคารพได้

 

ก่อนอื่น…

ถามตนเอง…เคารพรักในตนเองไหม

หรือรักหน้าตาของตนเอง

 

ถามตนเอง…ที่บำเพ็ญปฏิบัติ  จิตอุทิศทุ่มเทนั้น

คือตนเองบอกตนเองใช่ไหม

 

ถามตนเอง…การแบกรับหากมิทำ

ย่อมจะยากจะถากถางบุกเบิกกว้างไกล

 

ถามตนเอง…จะให้สุขภาพทั้งภายในและภายนอกสว่าง สงบ แข็งแรงมีราศี

รัก โลภ โกรธหลง กิเลส อารมณ์ ตัดละวางหมดจดหรือยัง

 

ถามตนเอง…จะก้าวนำพาเวไนยทั้งหลาย

คุณบารมีหมั่นสั่งสมกันยิ่งขึ้นไปหรือยัง

 

ถามตนเอง…หากวันนี้ชีพจะดับพลัน

จะยังคงเดินงานธรรมะไหม

 

 

อาจารย์เชื่อมั่นเจ้าทุกคน  จับมือกันไว้ให้มั่น ประคองช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ใช้จิตสำนึกคุณขอบคุณเบื้องบน  ใช้จิตละอายบาป  โดยสำรวมกายวาจา  ใจเที่ยงตรงสัมมา

เข้าใจไหม

 

ที่อาจารย์กล่าวคือ  ความห่วงใยเจ้า อวยพรเจ้าราบรื่น ทางธรรมสำเร็จผลเมื่อกลับคืน

กราบลา

ฮา  ฮา  หยุด